บริการเสริมคาง เชียงใหม่ ปรับหน้าให้สวยงาม ถูกหลักโหงวเฮ้ง

รวมเรื่องที่ต้องทราบ ก่อนจะเสริมคาง เชียงใหม่ หรือจังหวัดไหนๆ ก็ตาม

สำหรับใครที่ค้างสั้น คางเล็ก คางไม่นูน หรือคางไม่สวย หรือผิดแปลกไปจากเดิมทำให้ไม่สวย การเสริมคาง เป็นการทำศัลยกรรมที่ช่วยให้คางสวยเข้ารูปรับกับโครงหน้าของแต่ละคนได้เลย จะลุคไหนก็เป๊ะแต่งหน้าแบบไหนก็ปังไม่มีพังอย่างแน่นอน  ซึ่งแพทย์จะผ่าตัดตกแต่งคางที่สั้นหรือยาวจนเกินไป ให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ ซึ่งจะใช้วิธีการผ่าตัดเล็ก สำหรับจัดรูปทรงของใบหน้าให้เรียวยาวยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเสริมคาง เชียงใหม่มีอะไรบ้าง มาดูพร้อมกัน

 

ศัลยกรรมเสริมคางใช้วัสดุอะไรในการทำ

โดยสิ่งที่จะใช้เสริมคางให้สวยในแต่ละรูปแบบนั้นก็ใช้เป็นซิลิโคนนั่นเอง ใครที่อยู่ในแวดวงความสวยความงามคงจะรู้จักอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปตัดเอาส่วนไหนในร่างกายเรามาเลยใช้ซิลิโคนก็ตอบโจทย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเคสยากสักแค่ไหน ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนคางบุ๋ม คางสั้น ฯลฯ ปัญหาเกี่ยวกับคางนั้นศัลยกรรมทำได้หมดเลยนะ ทำแล้วโครงหน้าไม่ผิดรูปอย่างแน่นอน โดยก่อนจะตัดสินใจเสริมคางนั้นทางคลินิกจะมีซิลิโคนแต่ละทรงมาทดลองเทียบให้เข้ากับทรงหน้าก่อน และให้เราเลือกด้วยว่าอยากจะได้คางประมาณไหน

เสริมคางเชียงใหม่

ซิลิโคนที่เป็นวัสดุสำหรับเสริมคางนั้นจะต้องมีคุณภาพมาก ๆ และแน่นอนว่าทุกคลินิกที่ถูกกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ คุณหมอมีความชำนาญก็จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอ

 

แล้วควรเลือกซิลิโคนสำหรับเสริมคางอย่างไรดี

หลายคนเคยสอบถามไปที่คลินิกถึงการทำคาง ซึ่งซิลิโคนยี่ห้อต่างๆ ก็คือชื่อที่ทางคลินิกตั้งขึ้นเพื่อโปรโมตสินค้าที่บางครั้งชื่อเรียกคนละชื่อแต่รูปทรงของซิลิโคนเหมือนกัน ซึ่งการเลือกซิลิโคนจริงๆ ไม่ควรเลือกแค่ยี่ห้ออย่างเดียว แต่ให้เลือกจากลักษณะคางที่ต้องการ ซึ่งแพทย์ที่มีความชำนาญจะทำหน้าที่เหลาเพื่อปรับซิลิโคนคางให้เหมาะสมกับคางของคนไข้นั่นเอง

เสริมคางเชียงใหม่

และอีกปัจจัยในการเลือกซิลิโคน ก็คือความยาวของขาซิลิโคน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการเสริมคางเชียงใหม่ ซึ่งคุณสามารถเลือกความยาวของขาที่เหมาะสมกับความกว้างของกระดูกคางได้ โดยประเมินร่วมกันกับความหนาของเนื้อเยื่ออ่อนที่บริเวณปลายคาง เพื่อให้ผลลัพธ์มีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด และไม่เห็นรอยต่อระหว่างซิลิโคน กระดูกคาง และเนื้อเยื่ออ่อนปลายคาง บางคนคิดว่ายิ่งซิลิโคนขายาวก็ยิ่งเสริมแล้วดูเรียว ทั้งที่ในความเป็นจริงลักษณะของใบหน้าที่เรียวของการศัลยกรรมต้องอาศัยประสบการณ์จากแพทย์ผู้ผ่าตัดเป็นหลักมากกว่า

ส่วนวิธีการเสริมคางนั้นส่วนมากจะทำได้ 2 แบบดังนี้

1.การเสริมคางด้วยซิลิโคนแบบเปิดแผลภายนอก วิธีนี้คนจะไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่เนื่องจากว่าจะเห็นแผลและมันยังมีให้เห็นหลังจากผ่าตัดแล้ว ตอนแผลหายทางแพทย์ก็จะเปิดแผลใต้คางออก

2.การผ่าตัดด้านใน เป็นการเปิดแผลในช่องปากบริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปาก ความยาวแผลจะประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร ซึ่งตรงนี้คนก็นิยมทำอยู่เพราะแผลจะไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เนื่องจากตัวแผลจะอยู่ด้านในช่องปากนั่นเอง

แล้ววิธีเสริมคางเทคนิคไหนดีที่สุด

ปกติแล้วการผ่าตัดเสริมคางแบบเทคนิคแผลด้านนอก จะช่วยให้การวางรูปทรงและตำแหน่งซิลิโคนมีความแม่นยำมากกว่า มีอาการบวมหลังผ่าตัดน้อยกว่า ไม่ติดเชื้อ และดูแลหลังจากที่ผ่าตัดได้อย่างง่ายดาย ทว่าคนไข้ส่วนมากมักจะกังวลเรื่องรอยแผลเป็น ทำให้เลือกเป็นเทคนิคแผลด้านใน ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้อย่างง่ายดายมากกว่า

ก่อนทำศัลยกรรมเสริมคางต้องเตรียมตัวอย่างไร

การผ่าตัดศัลยกรรมทุกชนิดจะต้องมีการเตรียมตัวมาดีของคนไข้ เพราะว่าจะได้ลดความเสี่ยงต่าง ๆ ได้ และทำให้การผ่าตัดเสริมคางนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี หากไม่เตรียมเลยหวังพึ่งแค่หมออย่างเดียว หรือ มีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะหากไม่พร้อมก็ไม่มีศัลยแพทย์ที่ไหนทำให้แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ สำหรับวิธีการเตรียมตัวก่อนจะเสริมคางเชียงใหม่ให้ทุกคนปฏิบัติดังนี้

1.สุขภาพร่างกายต้องแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เช่น เป็นไข้ เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้ออักเสบทางผิดหนัง เป็นต้น

2.หากกำลังตั้งครรภ์ให้แจ้งศัลยแพทย์ทันที

3.หากแพ้ยาอะไรก็ต้องแจ้งก่อนทันที

4.งดการทานอาหารเสริมทุกชนิด งดทานยาบำรุง วิตามิน ต่าง ๆ อย่างน้อย 3 เดือน

5.หากมียารักษาโรคประจำตัวที่จะต้องทานเป็นประจำต้องแจ้งศัลยแพทย์ทันที

6.หากเคยทำศัลยกรรมอะไรมาก่อนต้องแจ้งทันที รวมถึงเคยผ่าตัดอะไรแบบไหนมาก็ต้องแจ้งเช่นกัน

7.ก่อนเริ่มผ่าตัดจะต้องทำความสะอาดร่างกายให้เสร็จ ล้างหน้าให้ดี บ้วนปากให้เรียบร้อย โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อบ้วน

8.ห้ามนำของมีค่าเข้าไปในห้องผ่าตัดเด็ดขาด (ทุกคลินิก)

9.จะต้องสวมเสื้อผ้าที่ไม่มีการนำไฟฟ้า ห้ามสวมเครื่องประดับ และเสื้อที่สวมนั้นต้องเป็นแบบกระดุมด้านหน้าถอดออกง่าย ๆ

เสริมคางเชียงใหม่

สำหรับผู้ที่อยากจะทำศัลยกรรมเสริมคางที่มีความพร้อมทุกข้ออยู่แล้วจะทำให้อะไร ๆ ก็ง่ายมากขึ้นแถมการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดก็ไม่ยากด้วยแต่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดเสมอ หากคุณกำลังอยากจะทำคางอยู่พอดี ถ้าอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่แนะนำมาศัลยกรรมคางที่ T-point-clinic มีหลายคนเข้ามาใช้บริการแล้วถูกใจมาก ๆ ราคาไม่สูงด้วยสมเหตุสมผล ได้คางสวยตามที่ต้องการทุกคน

 

ศัลยกรรมเสริมคางเจ็บไหม ?

ถ้ามีใครที่บอกว่าทำมาแล้วไม่เจ็บนะอย่าไปหลงเชื่อ แสดงว่าเขาไม่ได้พูดความจริงแล้วล่ะ ในขั้นตอนการทำนั้นไม่เจ็บเท่าตอนทำเสร็จ เพราะว่าพอทำเสร็จแล้วยาชาก็อาจจะหมดฤทธิ์ไปนั่นแหละคือสิ่งที่คนทำศัลยกรรมต้องเจอทุกคน คำกล่าวที่ว่า “อยากสวย ต้องอดทน” ส่วนหนึ่งก็เพราะมันเจ็บนี่เอง ฉะนั้นบอกเลยว่าเจ็บแน่นอน แต่ว่าก็จะมียาแก้ปวดช่วยเอาไว้ได้ ซึ่งความปวดนี้จะมีเฉพาะในช่วงแรก ๆ เท่านั้นพอคางเริ่มเข้าที่แล้ว แผลเริ่มจะหายดีความเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลงและหายไป เถียงหัวชนฝาไปเลยถ้าใครบอกเสริมคาง เชียงใหม่หรือเสริมคลินิกไหนมาแล้วไม่เจ็บเลยกินอะไรตามใจปากได้สบาย นั่นไม่ใช่แล้วนะ

เสริมคางเชียงใหม่

 

การทำความสะอาดแผล หลังผ่าตัดเสริมคาง

เวลาผ่าตัดเสริมคาง เชียงใหม่เสร็จแล้วศัลยแพทย์จะแนะนำวิธีทำความสะอาดแผลที่ถูกต้องให้ ซึ่งจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัดที่สุดเลยนะ แผลจะได้หายเร็ว ๆ ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วย ในการทานอาหารนั้นควรจะทานอะไรที่อ่อน ๆ เคี้ยวง่าย งดอาหารเคี้ยวยาก ๆ อาหารที่ต้องขยับปากเยอะงดไปก่อนในช่วงระยะแรก ๆ ของการเสริมคาง รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะกระทบกระเทือนมาถึงแผลได้ก็ต้องงด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การยกของหนัก การทำงานบ้าน การวิ่ง การมีเพศสัมพันธ์ งดไปเลยประมาณ 3 สัปดาห์ พอหลังจากนั้นก็ค่อยทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ปกติเมื่อแผลหายแล้ว

เสริมคางเชียงใหม่

 

วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมคางอย่างถูกต้องทำอย่างไร

พอผ่าตัดเสร็จแล้วอาการโล่งจะมาหาแน่นอนว่าเราได้ทรงคางที่สวยเข้ากับโครงหน้า ทำให้ดูมีเสน่ห์ น่ามอง เพิ่มความมั่นใจ แต่ว่าไม่ใช่จะไปทำกิจกรรมได้ปกตินะ กิจวัตรประจำวันบางอย่างก็ต้องงดไปก่อนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำให้แผลได้รับผลกระทบจนทำให้ต้องเสียเวลามาแก้คางใหม่ ซึ่งสิ่งที่จะต้องทำหลังเสริมคางมีดังนี้

1.ศัลยแพทย์จะแนะนำวิธีการล้างแผนอย่างถูกต้องให้ตามวิธีการผ่าตัด หากแผลอยู่บริเวณใต้คางให้เอาน้ำเกลือเช็ดบาดแผลอย่างเบามือ เช็ดจนไม่มีคราบเลือดแล้วค่อยต่อด้วยเบตาดีนทา สำหรับผู้ที่ผ่าแบบมีแผลในช่องปากนั้นก็จะต้องบ้วนปากทุกครั้งหลังการทานอาหาร โดยทางคลินิกจะจัดน้ำยาบ้วนมาให้

2.อาหารที่รับประทานได้หลังการผ่าตัดนั้นต้องเป็นอะไรที่เคี้ยวง่าย ๆ ทานง่าย ๆ ไม่ต้องใช้การขยับปากเยอะ โดยเฉพาะผู้ที่ผ่าตัดแบบแผลอยู่ด้านในช่องปาก

3.แม้จะเป็นอาหารอ่อนเคี้ยวง่ายแต่ถ้ารสจัดก็ทานไม่ได้นะ งดไปเลย รวมถึงของหมักดองต่าง ๆ ด้วยเหมือนกัน

4.จะต้องทำการประคบเย็น 72 ชั่วโมงแรกหลังจากการผ่าตัด ( 3 วัน ) โดยจะต้องประคบตลอดวันเลยห้ามเว้นว่างจะใช้เป็นน้ำแข็ง หรือเจลเย็นประคบก็ได้ โดยก่อนจะประคบก็หาอะไรมาห่ออีกชั้น จะเป็นพลาสติกก็ได้นะลองขอคำแนะนำจากแพทย์ดู เพื่อว่าเวลาประคบจะได้ไม่โดนแผล และต้องประคบเบา ๆ นะ เสริมคางเชียงใหม่มาประคบหนักรีบหายไม่ได้นะ กดไม่ได้ หาอะไรวางทับก็ไม่ได้นะ ต้องเบา ๆ เพราะความเย็นจะช่วยลดความเจ็บพอรู้สึกชาแล้วค่อยพัก หายชาก็เริ่มประคบใหม่

5.เวลานอนจะต้องให้ศีรษะอยู่สูงนะ หากที่นอนปรับได้ก็ให้อยู่ประมาณ 45 องศา ร่างกายจะจับเลือดเสียออกได้สะดวก ทำแบบนี้ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการผ่าตัดแผลจะได้ไม่บวมมากไป

6.ควรจะต้องทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เนื่องจากยานั้นจะช่วยลดอาการบวมอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อ แก้ปวด และจะช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น

7.อย่าลืมไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจดูอาการ ดูแผลหลังการผ่าตัดทุกครั้ง จนกว่าจะมั่นใจว่าแผลหายแล้วแพทย์จะบอกว่าไม่ต้องไปพบแพทย์แล้วก็ได้

8.ห้ามนอนคว่ำ ห้ามนอนตะแคง เด็ดขาด

9.เมื่อถึงเวลาตัดไหมต้องไปตามนัด โดยหมอจะนัดตัดไหมของแผลใต้คางหลังการผ่าตัดในวันที่ 15 อย่าลืมไป

10.หากมีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นต้องรีบไปปรึกษาศัลยแพทย์ทันที

11.อย่าส่องกระจกหากเป็นไปได้เพราะว่าการทำคางนั้น จะเข้ารูปเข้ารอยช้ากว่าการเสริมส่วนอื่น ๆ อย่างน้อยต้องรอระยะประมาณ 3 เดือนถึงจะเริ่มเข้าที่

เสริมคางเชียงใหม่

เสริมคางเชียงใหม่


บทสรุป

การเสริมคางนั้นมันไม่ง่ายเลยแต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของศัลยแพทย์เก่ง ๆ อย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากมีใบหน้าสวย เรียว งาม ต้องทำศัลยกรรมเสริมคาง เชียงใหม่ และศึกษารายละเอียดของการทำคางอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้การเสริมคางเป็นเรื่องที่ง่ายดายและเสริมสร้างบุคลิกให้กับคุณ