เสริมคาง เชียงใหม่ ด้วยซิลิโคน มีกี่แบบ อะไรบ้าง

เสริมคาง เชียงใหม่ ด้วยการเลือกใช้ซิลิโคน แทนสารเติมเต็ม

คาง เป็นส่วนหนึ่งของใบหน้า ซึ่งเป็นตัวกำหนดความสั้นยาวและความเรียวของใบหน้า โดยบางคนมีคางที่ไม่สมส่วน ไม่รับกับใบหน้า เช่น คางสั้นเกินไป คางใหญ่เกินไป คางเหลี่ยม คางบุ๋ม คางเบี้ยว เป็นต้น ก็มีวิธีแก้ปัญหาด้วยการทำศัลยกรรมเสริมคาง เชียงใหม่ การเสริมคางนั้นมีหลายวิธี ทั้งวิธีเสริมคางด้วยการฉีดสารเติมเต็ม เช่น ฟิลเลอร์ หรือการฉีดคางด้วยไขมันตัวเอง ซึ่งจะไม่อยู่ถาวร เพราะจะมีการสลายไปในระยะเวลาประมาณ 3-5 ปี ส่วนการเสริมคางอีกแบบหนึ่งก็คือ การเสริมคางด้วยซิลิโคน ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

การเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้นจะใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกับการเสริมจมูก มีทั้งซิลิโคนชนิดที่ขึ้นรูปมาแล้วจากโรงงาน ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการตกแต่งเพียงเล็กน้อยก่อนจะนำมาใช้ และชนิดที่ศัลยแพทย์ต้องมาเหลาเองเพื่อให้รับกับรูปหน้าของคนไข้แต่ละคน ซึ่งการศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่

1.เสริมคางแบบแผลใน

เป็นการผ่าตัดโดยการเปิดแผลด้านในช่องปาก บริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง แล้วนำแท่งซิลิโคนที่ตกแต่งเสร็จแล้วใส่เข้าไป จากนั้นจึงเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ซึ่งการเสริมคางเชียงใหม่วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีแผลเป็นนูนง่าย หรือคนที่ไม่ต้องการให้มีแผลเป็นด้านนอก แต่หลังการผ่าตัดจะต้องมีการดูแลช่องปากเป็นอย่างดี ต้องหมั่นทำความสะอาดเพื่อไม่ให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อ และควรเลือกรับประทานอาหารที่มีรสอ่อน ไม่เผ็ดหรือรสจัดจนเกินไป

 

2.เสริมคางแบบแผลนอก

เป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คางขนาดเล็กยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร ซึ่งวิธีนี้ศัลยแพทย์สามารถปรับรูปคางได้หลายองศา ทำให้การวางซิลิโคนเป็นไปอย่างแม่นยำ และตรงตามจุดที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินบริเวณใต้คางได้อีกด้วย ซึ่งการผ่าตัดเสริมคางแบบแผลนอกจะดูแลแผลได้ง่ายและสะดวกกว่าการเสริมคางแบบแผลใน แต่ก็จะมีแผลเป็นเล็กน้อยบริเวณใต้คาง ซึ่งจะค่อยๆจางลงและหายไปเอง โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน แต่ถ้าเราทาครีมลดรอยแผลเป็นร่วมด้วย ก็จะช่วยให้แผลเป็นหายเร็วยิ่งขึ้น

การเสริมคาง เชียงใหม่ช่วยยกระดับรูปหน้าของเราให้ดูสมส่วนและสวยงามขึ้นได้ก็จริง แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปทำศัลยกรรมเสริมคางที่ไหนๆก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวอย่างถูกวิธีก่อนการผ่าตัด และมีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังการผ่าตัด ที่สำคัญควรหาคลินิกที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน มีศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ของการเสริมคางนั้นออกมาอย่างดีที่สุด